DPI คืออะไร? และสำคัญอย่างไรในการสแกนเอกสาร 

DPI คืออะไร? DPI คือหน่วยวัด “ความละเอียดของภาพสแกน” ที่ส่งผลโดยตรงต่อความคมชัดของเอกสารที่ได้จากเครื่องสแกนเนอร์ โดย DPI (Dots Per Inch) หมายถึงจำนวนจุดสีที่ถูกบันทึกได้ในพื้นที่ 1 นิ้ว ยิ่งค่า DPI สูง ภาพก็ยิ่งคมชัดและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น

ดังนั้นแม้ค่า DPI จะถูกใช้ทั้งในงานสแกนและงานพิมพ์ แต่ความหมายและวิธีการทำงานแตกต่างกัน ในบทความนี้เราจะโฟกัสเฉพาะ DPI ของเครื่องสแกนเนอร์ เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมจึงมีความสำคัญต่อคุณภาพงานสแกนของคุณ

📌 DPI ของเครื่อง Scanner คืออะไร?

DPI ของสแกนเนอร์หมายถึง ความละเอียดในการเก็บข้อมูลของภาพต้นฉบับ
ค่า DPI ยิ่งสูง เครื่องก็จะยิ่งสามารถเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น เช่น 

  • เส้น

  • ตัวอักษรขนาดเล็ก

  • Texture หรือเนื้อกระดาษ

  • รายละเอียดของรูปภาพ เช่น เงาและเกรน

ยิ่งไปกว่านั้นการที่ค่า DPI สูง → ภาพที่สแกนยิ่งคม ชัด และใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด

ประเภทของ DPI ในเครื่อง Scanner DPI
จะแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ดังนี้

1) Optical DPI (ความละเอียดจริง)
เป็นความละเอียด จริง ของหัวสแกนหรือชุดเซนเซอร์ (CCD / CIS)

ถือเป็นค่าที่สำคัญที่สุด เพราะบ่งบอก ประสิทธิภาพแท้จริง ของเครื่องสแกนเนอร์

ตัวอย่างค่า Optical DPI เช่น:

  • 600 × 600 dpi
  • 1200 × 1200 dpi

Optical DPI ยิ่งสูง → ภาพคมชัดจริง ไม่ผ่านการแต่งหรือการคำนวณภาพ

2) Output DPI (ความละเอียดที่คำนวณเพิ่ม)
เป็นค่าความละเอียดที่ “ระบบซอฟต์แวร์” ทำการขยายหรือ interpolate เพิ่มจาก Optical DPI จึงไม่ใช่รายละเอียดจริงของหัวกล้อง 
ยกตัวอย่างเช่น

  • Optical DPI 600 × 600
  • Software ขยายได้ถึง 1200 × 1200 dpi

อีกทั้งเหมาะสำหรับงานที่ต้องขยายภาพ แต่ไม่สามารถให้คุณภาพเท่า Optical DPI ได้

🖼️ DPI สูง = รายละเอียดมาก (แต่ไฟล์ใหญ่ขึ้น)

ค่า DPI สูงช่วยให้ได้ภาพคมชัด แต่ก็มีผลตามมาคือ:

  • ใช้เวลาสแกนมากขึ้น

  • ไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้น

  • ใช้พื้นที่จัดเก็บมากกว่าเดิม

ดังนั้นควรเลือก DPI ให้เหมาะสมกับงาน เพื่อให้ทั้ง คุณภาพดี + ประหยัดเวลา ไม่สิ้นเปลืองทรัพยากร

จะเลือกค่า DPI อะไรให้เหมาะกับงานสแกนแบบต่าง ๆ

ประเภทงานค่า DPI ที่แนะนำ

  • 300 DPI: เอกสารทั่วไป / หนังสือ เช่น หนังสือ, สัญญา, แบบฟอร์มสำนักงาน

  • 600 DPI: เก็บถาวร / งานสำคัญ เช่น เอกสารสำคัญที่ต้องเก็บแทนต้นฉบับ

  • 1200 DPI: งานที่มีความละเอียดสูง  เช่น แผนที่, แบบแปลน, ภาพถ่าย, งานที่ต้องเก็บ Texture

    สรุปสำหรับผู้ใช้งาน

    • DPI = ความละเอียดของภาพสแกน
    • Optical DPI = ความสามารถจริงของเครื่อง → สำคัญที่สุด
    • Output DPI = ค่าที่โปรแกรมเพิ่ม → ไม่ใช่คุณภาพจริงทั้งหมด
    • เลือก DPI ให้เหมาะงาน → ได้คุณภาพดี + ประหยัดเวลา